การกำหนดราคาสินค้าและกำหนดราคาในบริการเป็นกระบวนการที่สำคัญในการบริหารธุรกิจเพื่อให้สามารถเติบโตและรอดต่อการแข่งขันได้ในตลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้ประกอบการที่มีความสามารถและผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้น การกำหนดราคาอย่างถูกต้องและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
วิธีการกำหนดราคาสินค้าและบริการ
- กำหนดราคาตามต้นทุน:
หมายถึงการกำหนดราคาโดยคิดต้นทุนการผลิตสินค้า และ บริการ จากนั้นเพิ่มขึ้นด้วยกำไรที่ต้องการได้รับ - กำหนดราคาตามตลาด:
หมายถึงการกำหนดราคาโดยดูจากราคาของสินค้า และ บริการที่ผู้คนเคลื่อนไหวกันในตลาด และปรับราคาให้เหมาะสมกับตลาด - กำหนดราคาตามการแข่งขัน:
หมายถึงการกำหนดราคาโดยดูจากการแข่งขันในตลาด และกำหนดราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งเพื่อดึงดูดลูกค้า - กำหนดราคาสินค้าแบบส่วนลด:
หมายถึงการกำหนดราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่หรือส่งเสริมการขาย - กำหนดราคาสินค้าแบบเป็นรายปี:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการให้เป็นรายปีเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนการใช้งานได้อย่างถูกต้อง - กำหนดราคาสินค้าแบบผ่อนชำระ:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าชำระเป็นส่วนเป็นส่วนหนึ่งต่อเดือนหรือตามรอบการจ่ายเงินของลูกค้า - กำหนดราคาสินค้าแบบไฟแนนซ์:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าชำระเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นรายเดือน - กำหนดราคาสินค้าแบบแพคเกจ:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการเป็นแพคเกจที่มีราคาที่ต่ำกว่าราคาสินค้าแต่ละชิ้นเมื่อซื้อแยกชิ้น - กำหนดราคาสินค้าแบบบริการหลังการขาย:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการโดยรวมตลอดระยะเวลาการให้บริการหลังการขาย เช่นการให้บริการซ่อมบำรุงหรือการจัดส่งสินค้า - กำหนดราคาสินค้าแบบเวอร์ชวล:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการโดยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเพียงส่วนหนึ่งของสินค้าหรือบริการได้ - กำหนดราคาสินค้าแบบตลาดเชิงกลยุทธ์:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการในแบบที่จะช่วยให้บริษัทของคุณมีการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ - กำหนดราคาสินค้าแบบเพื่อส่วนลด:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการให้มีส่วนลดสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการมากกว่าปกติ - กำหนดราคาสินค้าแบบเพิ่มค่าบริการ:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการโดยมีการเพิ่มบริการเพิ่มค่าเข้าไป เช่น บริการจัดส่งสินค้าฟรีหรือบริการให้คำปรึกษาหลังการขาย - กำหนดราคาสินค้าแบบตามกลุ่มเป้าหมาย:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการโดยใช้กลุ่มเป้าหมายเป็นตัวกำหนด เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง - กำหนดราคาสินค้าแบบตามจำนวนสั่งซื้อ:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการโดยคำนวณราคาในแต่ละรอบการสั่งซื้อ โดยราคาจะลดลงเมื่อมีการสั่งซื้อในปริมาณมาก - กำหนดราคาสินค้าแบบส่งเสริมการขาย:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการให้ต่ำกว่าราคาปกติ เพื่อส่งเสริมการขายและเพิ่มยอดขาย - กำหนดราคาสินค้าแบบสมาชิก:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการสำหรับสมาชิกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมสมาชิกของร้านค้า - กำหนดราคาสินค้าแบบการเช่า:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการที่เช่าให้กับลูกค้า โดยมักจะคิดราคาตามระยะเวลาการเช่า - กำหนดราคาสินค้าแบบการซื้อแบบจำนำ:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการที่ซื้อแบบจำนำ โดยมักจะกำหนดราคาต่ำกว่าราคาปกติ เนื่องจากลูกค้าจะต้องใช้สิทธิ์ในการเช่าจำนำ - กำหนดราคาสินค้าแบบการบริโภค:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการบริโภค เช่น อาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหาร - กำหนดราคาสินค้าแบบการผลิต:
หมายถึงการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการที่เป็นการผลิตสินค้า โดยมักจะคิดราคาโดยคำนวณต้นทุนการผลิตและกำไรที่ต้องการได้รับ
Facebook fanpage : GeeHRM Line@ : 640vtamj Tiktok : GeeHRM Website: GeeHRM