Phone

Line

Wechat

Hide

8 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น

โดย | ก.ค. 11, 2022 | Uncategorized | 0 ความคิดเห็น

ความจำดี

เอ๊ะ!!! นี่เรากำลังจะทำอะไรนะ นึกไม่ออก เมื่อก่อนเราเคยเป็นคนความจำดีนี่นา ต้องเดินย้อนกลับไปจุดก่อนหน้านี้ อาการเหล่านี้เป็นอาการเริ่มต้นของความขี้หลงขี้ลืม อาการขี้หลงขี้ลืมอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าการหลงลืมมีบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน และหากเราไม่รีบแก้ไข อาการที่เราคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนก็เป็นนั้นอาจส่งผลเสียกับเราทั้งในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้ในอนาคต แล้วถ้าไม่อยากกลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืมล่ะ จะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้ความจำดีและจำได้อย่างแม่นยำขึ้น

1. การออกกำลังกายช่วยเรื่องการทำงานของสมอง

การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยเรื่องการทำงานของสมองด้วย เพราะการไม่ออกกำลังกายจะทำให้เกิดคราบไขมันและหินปูน (Plaque) ในเส้นเลือดและหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการสูบฉีดเลือดลดลง นอกจากจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการหัวใจวายแล้ว ยังทำให้ปริมาณออกซิเจนและสารอาหารที่เลือดนำไปเลี้ยงสมองลดลงอีกด้วย เมื่อสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง ดังนั้นการออกกำลังกายเป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ

2. อย่าเครียด เพราะมันส่งผลเสียต่อการจดจำ

ความโกรธหรือความกังวลเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียด ส่งผลเสียต่อสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจดจำ ในบรรดาสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดทั้งหมด อาการซึมเศร้าเป็นสิ่งที่ทำร้ายสมองได้มากที่สุด เมื่อเรามีอาการซึมเศร้าจะทำให้สาร Cortisol หลั่งออกมามากขึ้น ซึ่งหากมีสารนี้อยู่บริเวณสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำระยะสั้นเป็นจำนวนมาก ก็อาจทำลายความสามารถในการจดจำสิ่งใหม่ ๆ ได้ ดังนั้นหากรู้สึกว่ามีอารมณ์ซึมเศร้า หรือเครียดก็ควรจะรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด

3. นอนหลับให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมง

การนอนหลับ 7 – 8 ชั่วโมงจะช่วยให้ความจำดีขึ้น เพราะระหว่างที่เราหลับ สมองจะซึมซับเอาเหตุการณ์หรือข้อมูลใหม่ ๆ ที่เพิ่งได้รับมา แล้วเก็บบันทึกไว้เป็นความจำระยะสั้น และพัฒนาต่อไปเป็นความจำระยะยาว ดังนั้นหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนหลับไม่สนิท ก็จะทำให้สมองทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และการงีบระหว่างวัน โดยเฉพาะหลังจากได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นการช่วยเรื่องการจดจำได้เช่นกัน

4. จดบันทึก และบอกเล่าเรื่องราวหรือสิ่งที่เรียนรู้มาเป็นประจำ

การจดบันทึกที่เจอเป็นประจำ หรืออ่านหนังสือแบบออกเสียงจะช่วยให้คุณพัฒนาความสามารถในการจดจำ รวมไปถึงการอธิบายหรือเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้คนอื่นฟังก็ช่วยได้ เพราะจากการศึกษาพบว่าเมื่อมีการให้นักเรียนสอนหรืออธิบายความรู้ต่าง ๆ ให้กับนักเรียนคนอื่นฟัง จะเป็นการดึงเอาความทรงจำในเรื่องนั้น ๆ ที่มีอยู่กลับมาใช้อีกรอบ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น และสามารถจดจำได้ดีขึ้น

5. กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง

น้ำหนักของสมองกว่า 50 – 60 % คือไขมัน ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากต่อเซลล์สมอง การกินอาหารที่มีไขมันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการพัฒนาความทรงจำระยะยาว อย่างไรก็ตามเราควรหลีกเลี่ยงของทอดต่าง ๆ เพราะถึงแม้จะมีไขมันแต่เป็นไขมันชนิดที่ไม่มีประโยชน์ต่อทั้งร่างกายและสมอง เราจึงควรเลือกไขมันที่ได้จากผักใบเขียว หรือปลาต่าง ๆ เช่น แซลมอน แอนโชวี่ และแม็กเคอเรลแทน

6. จดจำเป็นรูปภาพ

ในการจดจำสิ่งต่าง ๆ หลายคนมีวิธีจดจำข้อมูลด้วยการจำแบบเป็นภาพ ซึ่งการให้ความสนใจและจดจำรูปภาพ หรือกราฟ ที่ประกอบอยู่ในหนังสือ หรือการจินตนาการสิ่งที่เรากำลังจดจำให้ออกมาในรูปแบบของภาพ รวมไปถึงการใช้ปากกาสีต่าง ๆ ไฮไลท์ส่วนที่สำคัญเอาไว้ ก็จะช่วยให้เราจดจำข้อความเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

7. ทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสมองและความจำ

การทำกิจกรรมที่ช่วยให้เราได้ฝึกสมองอยู่เป็นประจำ เช่น การอ่านหนังสือ หรือเล่นเกมฝึกสมองต่าง ๆ นอกจากจะช่วยให้สมองได้ทำงานอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเรื่องความจำหรือโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

8. ปฏิบัติให้เป็นกิจวัตร

การทำซ้ำ ๆ เหมือนๆ กันทุกวัน จะช่วยให้สมองจำได้เองโดยไม่ต้องพยายาม เช่น ถ้าทุกครั้งที่อ่านหนังสือยังไม่จบแต่ต้องไปทำอย่างอื่น คุณวางมันไว้ที่ใดที่หนึ่งเป็นประจำ เมื่อเสร็จธุระจะกลับมาอ่านต่อ สมองจะสั่งการโดยอัตโนมัติว่าจะต้องไปหยิบหนังสือที่ไหน

Facebook fanpage : GeeHRM Line@ : 640vtamj Tiktok : GeeHRM Website: GeeHRM

thTH